แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าวสาร แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าวสาร แสดงบทความทั้งหมด

5 ทีมที่น่าสนใจใน "พรีเมียร์ลีก" ในปี 2014-2015

ผ่านไปแล้วกับพรีเมียร์ลีก 2013-2014 ยินดีกับ Manchester City ด้วย
เป็นทีมที่แกร่งมากจริงๆ ในฤดูกาลหน้าหรือ 2014-2015 มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย
การซื้อขายนักเตะดุเดือดตั้งแต่เปิดตลาด คึกคักกว่าปีก่อนมาก ยัดราคากันน่ากลัวสุดๆ
วันนี้ก็ขอเขียนเกี่ยวกับทีมที่น่าสนใจของฤดูกาลหน้า มีอะไรให้น่าลุ้นเพียบเลยอึดอัดมาก

1. Leicester City (เลสเตอร์ ซิตี้)
เริ่มจากเลสเตอร์ (เจ้าของคือคนไทย King Power แต่เป็นทีมอังกฤษนะครับ) ทำไมเลสเตอร์ถึงน่าสนใจน่ะเหรอ
ก็เพราะว่าปีนี้เลสเตอร์ ซิตี้คว้าแชมป์ "แชมเปี้ยนส์ชิพ" อย่างน่าเหลือเชื่อ นั่นก็เพราะปีนี้พวกเขาโดนแบนเรื่องการใช้เงิน
เพราะสโมสรขาดทุนมายาวนาน ทำให้พวกเขาใช้เงินได้จำกัดมาก แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็กอดคอกันขึ้นไปเล่นพรีเมียร์ลีก
ได้ในที่สุด เป็นการรอคอย 10 ปีของแฟนๆ เราวมาดูกันว่าเลสเตอร์จะไปได้ไกลแค่ไหน

2. Manchester United (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด / แมนยู)
หลายคนคงงงแมนยูปีนี้ฟอร์มไม่ดีมากๆเลย จะไปจับตามองทำไม ก็นั่นละแหละครับที่น่าจับตามอง
แมนยูได้ผู้จัดการคนใหม่แล้วคือ "หลุยส์ ฟาน กัล" ทุกคนรู้จักเขานะครับยุค 90 คือยุคของเขาเลยละ
ถึงฟาลจะหมดไฟแล้วก็เถอะ แต่อย่าลืมนะครับฟานเป็นโค้ชที่เน้น "เทรน" นักเตะ เพราะงั้นสกิลต่างๆ
ติดตัวนักเตะไปตลอดครับ เพราะงั้นแมนยูเลยน่าสนใจ เพราะแมนยูมีนักเตะหลายคนที่มีพรสวรรค์
แต่แป๊กเพราะการเทรนไม่ค่อยดี อย่าง แดนนี่ เวลเบ็ก, ฟาน เพอซี่(หลังๆฟอร์มตก)

3. Southampton (เซ้าท์แฮมตั้น)
ทีมนี้น่าสนใจอยู่แล้วในปีนี้ แต่ที่หน้าสนใจในฤดูกาลหน้าคือ "โค้ดไปแล้ว นักเตะก็จะขายหมด"
แล้วฤดูกาลหน้าพี่จะเล่นกันยังไงละเนี้ย

4. Liverpool (ลิเวอร์พูล)
แน่นอนว่าทีมกลางตารางอย่างลิเวอร์พูล จู่ๆก็ผงาดก้าวกระโดด ซัดทีมใหญ่ทีมเล็กแบบไม่ยั้ง
ที่น่าจับตามองคือลิเวอร์พูลเปลี่ยนรูปแบบการเล่นจาก บุกเบาๆ กลายเป็น บุกไม่ยั้ง และพวกเขาก็ทำได้ดี
แต่ที่เป็นจุดอ่อนของพวกเขาคือ "กองหลัง" นั่นก็เพราะกองหลังของพวกเขารั่วแบบอุดไม่อยู่
ก็น่าจับตามองว่าพวกเขาจะทำยังไงกับกองหลังในฤดูกาลหน้า

5. Everton (เอฟเวอตั้น)
เอฟเวอตั้นปีนี้สร้างความประหลาดใจอย่างมาก เมื่อเขาไม่มีกุนซืออย่าง "เดวิด มอย" แต่ทีมดันไปได้ดีกว่าที่มอยเคยทำ
แถมทีมใช้เงินน้อยมาก เรียกได้ว่าแทบจะไม่ใช้เลยดีกว่า ผู้จัดการทีมคนใหม่อย่าง Roberto Martínez แจ้งเกิดทันที
ทั้งที่ผลงานเค้าก่อนหน้านั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ปีหน้าเอฟเวอตั้นจึงน่าจับตามองมากถ้าเขาได้นักเตะที่พร้อมกว่านี้
พวกเขาจะน่ากลัวขนาดไหน

นักข่าว Nation(เนชั่น) พลาดโพสต์ความเห็นส่วนตัวลงเพจ Nation Channel อย่างฮา

เมื่อนักข่าวเนชั่นโดนตำรวจเรียกตรวจค้นขณะนั่งแท็กซี่ เจ้าตัวไม่พอใจ
โพสลงเฟสเพื่อระบายอารมณ์ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ "ลืมเปลี่ยนแอ็คเค้าท์"


ในข้อความนี่จัดเต็มเลยทีเดียว งานนี้พูดไม่ออกนอกจาก "555"

วงโย ยิ่งขุดยิ่งเจอ ผอ. และครูบางคนอาจมีเอี่ยว!!!

ล่าสุดมีคลิปเสียงเกี่ยวข้องกับวงโย ที่เคยขอเงินคุณตัน 3 ล้าน
ชื่อคลิปถูกโพสในชื่อ "วณิพกพเนจร" โดยความยาวอยู่ที่ 21:20 นาที
เนื้อหาในคลิปเป็นการวางแผน ระหว่างผอ. กับกลุ่มผู้คุมทีม(คาดว่า)
วางแผนไถเงินเอกชน โดยมีคุณตันเป็นเหยื่อ เนื้อหาในคลิปค่อนข้างยาว
และน่าสะอิดสะเอียน เต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว งานนี้ยังไม่รู้ว่าคลิปเสียง
จริงเท็จแค่ไหน แต่ระดับความสมจริง 9/10


#วงโย #วงขอทาน #ผู้อำนวยการมีเอี่ยวกับวงโย #คลิปเสียงวงโย #สะใจ

ช็อควงการหนัง หมวยจิ้นดิ้นก้องโลก ทำเงินเพียง 29000

ช็อควงการหนัง หมวยจิ้นดิ้นก้องโลก ทำเงินเพียง 29000
โดยหนังเรื่องนี้เข้าฉายได้ 1 อาทิตย์แต่ทำเงินไปเพียง 29000 บาทเท่านั้น
โดยมียอดคนดูไม่ถึง 200 คน เป็นรายได้ที่ต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี :O

เรื่องย่อ: หมวย (ลูกสาว เถ้าแก่ร้านชำเก่าแก่) ต้องผจญภัยกับเรื่องราวฮาๆมากมายที่เข้ามา­ในชีวิต
โรมานซ์แบบกวนๆกับหนุ่มร็อค จากกรุงเทพ ภารกิจช่วยร้านจากมินิมาร์ทชื่อดัง เต้นสานฝันเพื่อเพื่อนสุดสวย
ที่ตายเป็นผี รักสามเส้าแบบงงๆกับหนุ่มจืดและหนุ่มร็อค ด้วยจินตนาการอันบรรเจิด ของหญิงสาววัยรุ่น สุดจิ้น

หลังจากผมอ่านเสร็จ แล้วเปิดดูตัวอย่าง


ผมไม่พบความสอดคล้องอะไรของหนังกับเรื่องย่อเลย แค่ตัวอย่างผมก็
ต้องใช้ความอดทนในการดูแล้ว ผมไม่ได้บอกว่าหนังไม่ดีนะ
เพียงแต่ว่าตัวอย่างสื่อสารับคนดูได้ไม่ดี ทำให้หนังไม่น่าสนใจ
เพราะตัวอย่างค่อนข้างน่าเบื่อ ทำให้คนดูไม่รู้สึกอยากดูหนัง
เอาเป็นว่าไปอุดหนุนเขากันหน่อย หนังดีบอกต่อ ยังไงความน่ารักของสาวๆ
ก็ยังน่าดูอยู่นะ :)

เพิ่มเติมรีวิว หมวยจิ้นดิ้นก้องโลก
ความจริงแล้วพลอตก็ไม่ได้แย่ แต่หนังพยายามจะทำตัวเองให้เป็นหนังตลาด ทั้งที่พลอตเรื่องดีมาก
ออกจะอินดี้ดูแล้วมีการบอกต่อแน่นอน พลอตเป็นเรื่องราวของ "หมวยที่เป็นลูกสาวร้านขายของชำ
และพระเอกเป็นเด็กจากร้านสะดวกซื้อ แน่นอนว่าร้านขายของชำกับร้านสะดวกซื้อจะไม่ถูกกัน
เพราะแย่งลูกค้ากัน แต่ที่สุดทั้งสองก็หลงรักกันโดยที่ครอบครัวของหมวยจะรู้ไม่ได้ และก่อนหน้านั้นเพื่อนของหมวย
ก่อนตายเคยบอกไว้ว่าอยากไปโคฟเวอแดนซ์ หมวยจึงต้องสานต่อฝันของเพื่อน" อ่านแล้วเข้าท่านะ
แต่พอเปลี่ยนมาเป็นหนังตลาดก็เหมือนกลายเป็นหนังคนละเรื่อง "เรื่องราวของหมวย ที่มีจินตนาการสูง(จิ้นเวอร์)
แถมครอบครัวก็เวอร์ไม่แพ้กัน พระเอกเด็กหนุ่มจากร้านของชำกับหมวยเริ่มหลงรักกัน โดยที่ครอบครัวรู้ไม่ได้
แล้วผีออยที่ก่อนตายอยากไปเต้นโคฟเวอ" WTF! แก่นสารของหนังหายไปกว่าครึ่ง
นั่นก็ไม่ได้เลวร้ายยังไงซะหนังก็ยังอยู่ในกรอบของเนื้อเรื่องแรก
แต่หนังออกมาจริงๆไม่ได้เป็นแบบนั้น หมวยจิ้นดิ้นก้องโลก กลายเป็นหนังศูนย์รวมความห่วย
มุขฝืดตลอดเรื่อง ความจิ้นของหมวยที่บางครั้งก็ไม่รู้จะใส่มาทำไม เพลงเพราะดีชอบนะ
แต่เปิดบ่อยซะจนเอียน โดยรวมแล้วหนังออกจะแย่แต่กับเงิน 29000 ถือว่าสมควรมั้ย ตอบเลยว่าไม่
หนังควรจะได้มากกว่านั้นจริงๆ เทียบกับ ม6/5 แล้วหนังยังดีกว่าจึ๋งนึงเลย จึ๋งเดียวนะอย่าดีใจ

ยิ่งคุ้ยยิ่งเจอเด็กวง โย ที่ขอยืมเงินคุณตันไปแข่งหรือไปเที่ยวกันแน่!!

ข้อความจาก Pantip

กระทู้นี้ถูกโพสโดย สมาชิกหมายเลข 760532 ใน Pantip
โดยเนื้อหามีดังนี้

ไม่คิดว่าจะตั้งกระทู้เรื่องนี้ เป็นครั้งที่สอง แต่ยิ่งขุด มันยิ่งเจอ ร้องไห้
น้องๆ บิน Emirates via Dubai ไปลง Frankfurt แทนที่จะไปลง Amsterdam
ราคาน่าเว็บ Emirates
ค่าเครื่องไปกลับ bkk-dubai-frankfurt ราคา 43920 บาท
ค่าเครื่องไปกลับ bkk-dubai-amsterdam ราคา 36775 บาท มีไฟลต์ทุกวันและหลายไฟลต์เพราะเป็นเมืองใหญ่

น้องเลือกไป Frankfurt ทำไม แล้วต่อรถไฟ ค่ารถไฟยุโรปมันไม่ใช่ถูกๆ
เมืองที่น้องไปแข่ง เท่าที่ดูในเว็บของผู้จัดงาน คือ เมือง Eindhoven
ซึ่งห่างจาก Amsterdam 126 กม. ใช้เวลาเดินทางโดยรถประมาณ ชั่วโมงครึ่ง
http://www.world-guides.com/europe/netherlands/north-brabant/eindhoven/eindhoven_maps.html
แต่ระยะห่างจาก Frankfurt ถึง 338 กม. พี่น้อง!!!!!!!!!!!
http://www.distancesfrom.com/distance-from-Frankfurt-to-Eindhoven-Nederland/DistanceHistory/1385323.aspx

พระเจ้าจอร์ช น้องยอดมาก เที่ยวให้สนุกเผื่อคุณตันด้วยนะครัช
เค้าล้อเล่นเค้าล้อเล่นเค้าล้อเล่น

*เพิ่มเติม ภาพราคาตั๋วบนเว็บ
อันนี้ลง Amsterdam


อันนี้ลง Frankfurt


*เพิ่มเติม 2* กันความเข้าใจผิด ราคาที่เช็คเป็นราคามาตรฐานหน้าเว็บ คณะอาจจะได้ราคาที่ถูกกว่านี้จาก Agent
แต่ตามหลักถึงจะได้ราคาถูกกว่าหน้าเว็บ แต่ถ้าเลือกไปลง Frankfurt ก็จะแพงกว่าจ่ายไป Amsterdam อยู่ดี

*เพิ่มเติม 3* พอดีเพิ่งเห็นเรื่องเวลาที่ใช้ในการเปลี่ยนเครื่อง น้องอาจจะไม่ได้รอนานเท่านี้ เพราะมันมีหลายไฟลต์ให้เลือกเหมือนกัน เราแค่เช็คเรื่องราคาโดยดูราคาถูกที่สุด มันก็เลยขึ้น flight ที่รอนานมาให้ หรืออีกนัยหนึ่ง ไฟลต์ที่ไม่รอนาน อาจจะแพงกว่านี้อีกหน่อย
ทั้งหลายทั้งปวง อาจารย์หายหัวหมด

สรุปการตั้งข้อสงสัยของนาย สมาชิกหมายเลข 760532
ทำไมถึงไปลงไกลถึง Frankfurt ซึ่งอยู่ไกลจากสถานที่การแข่งขันมากถึงเท่าตัว! ค่าเดินทางไปแข่งก็แพงกว่า! ตั๋วเครื่องบินยังแพงกว่าอีก!
ในความเป็นจริงควรจะไปลงที่ Amsterdam ซึ่งค่าตั๋วถูกกว่า ใกล้กว่ามาก

เรดาร์ไทยพบ MH370 มุ่งช่องแคบมะละกา สื่อมาเลย์อ้างอาจถูกบังคับให้บินต่ำ

เรดาร์ไทยพบ MH370 มุ่งช่องแคบมะละกา สื่อมาเลย์อ้างอาจถูกบังคับให้บินต่ำ

สาวทอมหึงโหดแทงนักศึกษาหนุ่ม 4 แผล เข้ามอบตัวแล้ว

น่ากลัวจริงๆ :(

สาวทอมหึงโหดแทงนักศึกษาหนุ่ม 4 แผล เข้ามอบตัวแล้ว
ข่าว 7 สี - สาวทอมที่ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงเพื่อนนักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกันเข้ามอบตัวกับตำรวจแล้ว สารภาพก่อเหตุเพราะความหึงหวงแฟนสาว นางสาวอธิตะยา ขำโสภา อายุ 19 ปี เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีใช้อาวุธมีดแทงนายณัฐพนธ์ นิ่มพิจารณ์ อายุ 20 ปี เพื่อนนักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกัน ย่านคลองประปา เสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา โดยนำอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุไปมอบให้เป็นหลักฐาน จากการสอบสวนนางสาวอธิตะยา รับว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง ส่วนสาเหตุเพราะไม่พอใจที่ผู้ตายถามถึงแฟนสาวของตน ซึ่งเป็นอดีตคนรักเก่าของผู้ตายที่เลิกลากันไปแล้ว โดยมีพี่สาวและเพื่อนผู้ตายไปดูหน้าผู้ต้องหา และจะให้ผู้ต้องหาไปขอขมาศพ พี่สาวผู้ตายบอกว่า ก่อนเกิดเหตุนางสาวอธิตะยาได้ทำร้ายร่างกายน้องชายจนมีบาดแผลที่คอ จากอาการหึงหวงแฟนสาวที่เคยเป็นแฟนกับน้องชาย หลังเกิดเหตุ อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเตรียมเรียกทั้งสองไปไกล่เกลี่ย แต่ระหว่างนั้นเองน้องชายบังเอิญไปเจอนางสาวอธิตะยาอีกจึงเกิดเหตุขึ้น โดยนางสาวอธิตะยาใช้อาวุธมีดที่เตรียมมา แทงน้องชายถึง 4 แผล จนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

เครดิต: bugaboo

ลือให้แซ่ดดดด แตงโม เลิก ฟ้าผ่า โตโน่

ลือให้แซ่ดดดด แตงโม เลิก ฟ้าผ่า โตโน่

กำลังเป็นที่ฮือฮา! กันไปทั้งโลกไซเบอร์ และโซเชียลเน็ตเวิร์ค ซึ่งต่างจับ(ผิด)สังเกตุกันว่าความสัมพันธ์ของคู่รักสะท้านวงการ แตงโม ภัทรธิดา กับคู่หมั้นหนุ่ม โตโน่ ภาคิน อาจจะกำลังสั่นคลอนอย่างหนัก หรือน่าจะถึงขั้นเลิก!! หลังล่าสุดต่างฝ่ายก็ต่าง Unfollow กันใน IG แถมสาว แตงโม เองก็เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ และโพสต์ข้อความชวนคิดออกมาให้ต่อยอดกันไปได้อีก สำหรับต้นตอของเหตุทะเลาะกันครั้งนี้ ว่ากันว่าเกิดจากกรณีที่ดาราสาว แตงโม ภัทรธิดา ไปคอมเม้นท์ในเชิงต่อว่าการทำงานของ AR สาวคนหนึ่งใน เอ็กแซ็กท์ หรือต้นสังกัดของหนุ่มโตโน่นั่นเอง โดย ณ จุดนี้ ใน IG ของทั้งคู่ก็มีทั้งคนเข้ามาให้กำลังใจ และทับถมมากขึ้นเรื่อยๆ...

เครดิต และ อ่านต่อที่ Mthai

เมื่อเพจการพนันแชร์เรื่อง "ความลำบากของแม่"


เครดิตภาพ: Try To Be

เมื่อเพจการพนันโพสภาพแม่หาเงินมาให้ลูกใช้อย่างยากลำบาก
นั่นไม่ใช่เรื่องตลกถ้าไม่ปิดท้ายด้วยลิงค์การพนัน มันเป็นเรื่องน่าขำ
ทำให้ชวนคิดว่า "ใช่" แม่หาเงินให้ลูกไปเล่นการพนัน นี่มันตลกร้ายชัดๆ

เจ้ามือหวยเตรียมยื่นศาล รธน. ขอหวยงวดล่าสุดโมฆะ ชี้นายกฯ ใบ้หวย

เจ้ามือหวยเตรียมยื่นศาล รธน. ขอหวยงวดล่าสุดโมฆะ ชี้นายกฯ ใบ้หวย

เจ้ามือหวยโวย ! เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ขอหวยงวดล่าสุด (16 มีนาคม 2557) เป็นโมฆะ ชี้นายกฯ ใบ้หวยชัด ขัดต่อรัฐธรรมนูญ

วันนี้ (18 มีนาคม 2557) มีรายงานว่า บรรดาเจ้ามือหวยจะเดินทางไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้การออกสลากงวดวันที่ 16 มีนาคม 2557 เป็นโมฆะ เนื่องจากนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ใบ้หวย ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่ขัดรัฐธรรมนูญ และขอให้คุ้มครองเจ้ามือชั่วคราวด้วยการไม่ต้องจ่ายเงิน พร้อมวอนให้พระพุทธะอิสระปิดกองสลากจนกว่าจะแสดงความรับผิดชอบ

นอกจากนี้ บรรดาเจ้ามือหวย ยังร้องให้นายกฯ รับผิดชอบกับหวยที่ออกมา ทำให้เจ้ามือสูญเสียเงินจำนวนมหาศาล อีกทั้งยังทำให้ประชาชนเสียเปรียบ เนื่องจากมวลมหาประชาชนไปซื้อเลข 79 ตามที่ M79 ตกใส่บ้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ทำให้ถูกหวยเพียงแค่ 2 ตัว แต่ นปช. กลับถูก 3 ตัวตรง เพราะเลขได้มาจากทะเบียนรถนายกฯ ในวันที่ยิ่งลักษณ์หกล้ม ซึ่งจะยื่นศาลขอความเป็นธรรมในเรื่องนี้ต่อไป

เครดิต: Kapook

มาเลย์...ยอมรับแล้ว MH370 ถูกจี้กลางอากาศ

มาเลย์...ยอมรับแล้ว MH370 ถูกจี้กลางอากาศ
ทางการมาเลเซีย ออกมายอมรับแล้ว เครื่องบินโดยสารของมาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH 370 ถูกคนร้ายที่มีความชำนาญทางการบินจี้ โดยนักบินอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุนี้ด้วย

เครดิต: เนชั่น

อดีตเด็กเร่ร่อน ดิ้นรนสู้ชีวิตจนเรียนจบด็อกเตอร์



คลิกที่นี่เพื่อข้ามไปดูคลิป

จากเด็กเร่ร่อนที่อาศัยอยู่กับแม่ที่ประกอบอาชีพเก็บขยะขาย ใครจะไปคาคดิดว่า ในอนาคตข้างหน้าเขาจะสามารถคว้าใบปริญญามาให้แม่ได้ชื่นชมสมใจ หนำซ้ำยังเป็นปริญญาเอกที่ทำให้เด็กชายคนนี้ภูมิใจอย่างที่สุดในฐานะด็อกเตอร์ เมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา รายการเจาะใจ ทาง ททบ.5 จึงได้เชิญชายคนนี้มาร่วมพูดคุย ปัจจุบันเขาคืออาจารย์ภาควิชาวิศวอุตสาหการ ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี..."ดร.กุลชาติ จุลเพ็ญ"

จะว่าไปเรื่องราวของอาจารย์กุลชาติก็เหมือนกับนิยายเรื่องหนึ่งที่เริ่มต้นมาด้วยความยากลำบาก แต่เพราะความพยายามและตั้งใจ ทำให้เขาประสบความสำเร็จในตอนท้าย โดยอาจารย์ เล่าให้ฟังว่า ครอบครัวของเขาเป็นชาวชุมพร เขาจำความได้ตั้งแต่อายุ 3 ขวบ ว่ามีพี่น้องทั้งหมด 5 คน เขาเป็นลูกคนที่ 4 คุณพ่อทำงานเป็นคนขับรถทัวร์ ส่วนคุณแม่เป็นแม่บ้าน ชีวิตในช่วงนั้นมีความสุขมาก แต่หลังจากนั้นได้ 2 ปี พ่อกับแม่ก็มีปัญหาทะเลาะกัน เขาเห็นพ่อใช้ค้อนทุบรูปภาพของตัวเองพร้อมกับประกาศว่า "ต่อจากนี้จะไม่มีพ่ออยู่ในบ้านแล้ว" ก่อนที่พ่อจะพาน้องสาวคนเล็กไปด้วย และไม่กลับมาที่บ้านอีกเลย

หลังจากคุณพ่อและคุณแม่ของอาจารย์แยกทางกัน คุณแม่ซึ่งต้องเลี้ยงดูลูก ๆ อีก 4 คน ไม่มีเงินพอจะเช่าบ้านอยู่ต่อ จึงได้ไปเช่าโกดังเก่า ๆ อยู่ ในราคาเดือนละ 350 บาท พร้อมกับออกไปทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่ต่างจังหวัด เพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว และส่งเงินกลับมาให้ลูก ๆ เดือนละ 500 บาท เท่ากับว่าในแต่ละเดือน 4 พี่น้องจะมีเงินเหลือใช้เพียงแค่ 150 บาทเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม หลังจากทนความลำบากได้เพียงไม่กี่เดือน พี่สาวคนโต และพี่ชายของอาจารย์ก็ตัดสินใจหนีออกจากโกดังไปใช้ชีวิตเอาดาบหน้า เหลือเพียงเขากับพี่สาวอีกคนที่ต้องดิ้นรนใช้ชีวิตต่อไป แม้กระทั่งบากหน้าไปขอข้าวข้างบ้านกิน แต่ทำอย่างนี้อยู่เพียงแค่ 2 เดือน ในที่สุด พี่สาวคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ก็หายออกจากบ้านไปอีก ทิ้งอาจารย์ในวัย 6 ขวบ ให้อยู่ที่โกดังเพียงคนเดียว ซึ่งอาจารย์บอกว่า ช่วงนั้นเป็นชีวิตที่มีอิสระมาก เขาเอาแต่นอนทั้งวัน จนหิวถึงได้ลุกไปที่ บขส. เพื่อหาข้าวที่คนกินเหลือประทังความหิว ซึ่งเขาก็ถูกแม่ค้าไล่อยู่บ่อย ๆ จนชิน

อาจารย์ เล่าต่อว่า ในวัยเด็กเขายังเคยไปเดินเร่ร่อนขอเงินจากผู้โดยสารตามท่ารถ ถ้าได้เงินก็จะนำไปซื้อข้าวกิน บ่าย ๆ ก็ไปเล่นเกมกับเพื่อนตามประสาเด็ก ๆ พอตกเย็นก็กลับไปนอนที่โกดัง แต่อยู่ไปสักพัก โกดังก็ถูกตัดน้ำ ตัดไฟ เพราะไม่มีใครไปจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ แต่อาจารย์ก็ยังคงอยู่ในโกดังแห่งนั้น ไม่ได้อาบน้ำ แปรงฟัน และไม่กล้าไปเรียน เพราะทั้งเนื้อทั้งตัวมีเพียงชุดนักเรียนเพียงชุดเดียว ซึ่งสภาพก็ดูมอมแมม ทำให้เพื่อน ๆ ไม่มีใครกล้าคุยด้วย แต่เขาจะเลือกไปโรงเรียนเฉพาะในวันที่โรงเรียนแจกนมถั่วเหลืองเท่านั้น เพราะช่วยคลายความหิวให้ตัวเองได้

ตลอดชีวิตในช่วงวัยเด็ก อาจารย์กุลชาติต้องต่อสู้กับชีวิตมาตลอด ทั้งไปขอข้าวกินตามวัด หรือตามงานเทศกาลต่าง ๆ แม้กระทั่งเป็นเด็กเก็บกระทง เด็กรับใช้วิ่งซื้อของ เรียกว่าทำทุกอย่างไม่ต่างจากเด็กจรจัดทั่วไป แต่ถึงชีวิตจะลำบาก ถูกตำรวจจับก็หลายครั้ง เขาก็ไม่คิดย้ายไปอยู่กับเพื่อนเหมือนกับพี่ชายพี่สาวที่หนีไปก่อนหน้านี้ เหตุผลเดียวก็คือ เขาต้องการรอแม่ เพราะกลัววันใดที่แม่กลับมาแล้ว จะไม่เจอลูก ๆ เหลืออยู่เลยแม้แต่คนเดียว

และหลังจากใช้ชีวิตเพียงลำพังมา 2 ปี ในที่สุด "แม่" ก็กลับมาจริง ๆ และบอกว่าจะไม่ทิ้งลูกไปอีกแล้ว อาจารย์บอกว่า นี่คือช่วงเวลาที่เขามีความสุขที่สุด แม้จะถูกแม่ตีบ่อย ๆ เพราะติดนิสัยไม่ยอมตื่นไปโรงเรียน แต่เขาก็เข้าใจว่า แม่หวังดีเพราะอยากให้เขามีความรู้ ขณะเดียวกัน เขากับแม่ก็ช่วยกันเก็บขยะขายของหาเงินเลี้ยงชีพไปพร้อม ๆ กัน และแม่ก็พร่ำสอนให้เขาเลิกเป็นขโมย

เมื่อถามจุดเปลี่ยนของชีวิตที่ทำให้เขาขวนขวายเรียนหนังสือคืออะไร? ดร.กุลชาติ บอกว่า เพราะวันหนึ่งส้วมที่บ้านเต็ม ราดเท่าไหร่ก็ไม่ลง แม่ของเขาตัดสินใจใช้ค้อนทุบบ่อเกรอะด้วยตัวเอง และใช้กระป๋องสีตักสิ่งปฏิกูลยกไปทิ้งทีละถัง ๆ ตลอดทั้งคืน

"ผมมองเห็นแม่ทำแบบนั้นทั้งคืน ผมคิดในใจว่าท่านยอมทำขนาดนี้เพื่อลูก เขาแค่อยากให้ผมไปเรียนเอง ตีผมทุกวันเพื่อให้ผมไปเรียน ทำไมผมถึงไม่ยอมไป เทียบแล้วแม่ลำบากกว่าเรามาก ก็เลยตั้งเป้าจะไปเรียนให้ได้" อาจารย์กุลชาติ บอก

หลังจากนั้น ดร.กุลชาติ ก็ปฏิวัติตัวเองใหม่ ตื่นแต่เช้า ออกไปช่วยแม่เก็บขยะตั้งแต่ตี 4 เสร็จสรรพ 7 โมงเช้าก็ไปเข้าห้องเรียน เพื่อตั้งใจเรียนหนังสือ กระทั่งวันหนึ่งความพยายามของเขาก็ประสบความสำเร็จ เมื่อสามารถสอบได้เป็นที่ 5 ของห้อง จากเดิมที่เคยได้ที่โหล่ และยังได้รับทุนเด็กเรียนดีมาช่วยเหลือ ในตอนนั้น ดร.กุลชาติ ตั้งใจจะเรียนสายอาชีพ เพื่อจะเป็นช่างเชื่อม จะได้หาเงินมาเลี้ยงดูแม่

ขณะเดียวกัน นอกจากรายการจะได้เชิญ ดร.กุลชาติ มาร่วมพูดคุยแล้ว ยังได้เชิญคุณแม่ของอาจารย์มาเล่าถึงช่วงชีวิตที่ผ่านมาด้วย โดยคุณแม่บุษรี จุลเพ็ญ เล่าว่า ที่เน้นย้ำให้ลูกชายต้องเรียนหนังสือ เพราะถูกคนรอบข้างสบประมาทว่า เธอไม่เอาลูกแล้ว ทำให้ลูกเป็นเด็กจรจัด เธอจึงตั้งใจจะเลี้ยงลูกให้ได้ดี เพื่อลบคำสบประมาทดังกล่าว และสิ่งที่จะทำให้ลูกได้ดีได้ก็คือการเรียนหนังสือ

คุณแม่บอกอีกว่า คนส่วนใหญ่มองว่า พวกเขาเป็นคนขี้ขโมย ไม่น่าคบหา ซึ่งเธอก็ได้สอนลูกไปว่า ไม่ต้องอายที่คนมองแบบนั้น แต่เราต้องอยู่ให้ได้ เพื่อพิสูจน์ให้พวกเขาเห็นว่า เราไม่ได้เป็นแบบนั้น ลูกแค่เป็นเด็กหลงทางไปชั่วขณะเท่านั้น

แต่ทว่า หลังจากอาจารย์กุลชาติเรียนจบชั้น ปวช. ก็มาพบว่า คุณแม่ป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกต้องมารักษาตัวที่กรุงเทพมหานคร เหตุการณ์นั้นทำให้เขาตัดสินใจศึกษาระดับชั้น ปวส. ต่อ โดยคิดว่า หากเรียนจบแค่ชั้น ปวช. คงได้เงินเดือนไม่เท่าไหร่ แต่หากเรียนต่อน่าจะได้เงินเดือนมากขึ้น เขาจึงตัดสินใจไปเรียนต่อ ปวส. ที่สงขลา โดยขอให้แม่ช่วยส่งเสียให้เดือนละ 2,000 บาท แต่เมื่อวันหนึ่ง เขารู้ว่าแม่ส่งเงินให้ไม่ไหวแล้ว เขาจึงตัดสินใจไปทำงานกะกลางคืนที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น เพื่อส่งเสียตัวเอง

ในที่สุด อาจารย์กุลชาติก็เรียนจบชั้น ปวส. แต่มีความคิดจะเรียนต่ออีก 2 ปี เพื่อเอาวุฒิปริญญาตรีด้านวิศวกรรม คุณแม่จึงตัดสินใจไปกู้เงินหมื่นมาจ่ายค่าเทอมให้อาจารย์ได้เรียนวิศวกรรมสมใจ กระทั่งวันหนึ่ง อาจารย์ตัดสินใจเลือกรับทุนของมหาวิทยาลัย เพื่อจะได้เรียนต่อ แต่ต้องแลกกับการใช้ทุนด้วยการเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยที่ตอนนั้นได้เงินเดือนราว ๆ 6 พันกว่าบาท ต่างจากอาชีพวิศวกรที่จะได้เงินเดือนสูงถึง 15,000 บาท แต่อาจารย์ก็ยินยอม เพื่อจะได้มีโอกาสได้เรียนหนังสือให้สูงขึ้น

หลังจากเรียนจบชั้นปริญญาตรี อาจารย์บอกว่า เป็นความภูมิใจที่สุด เพราะทำให้แม่ได้เห็นภาพเขารับปริญญาจนได้ ขณะที่เด็ก ๆ รุ่นเดียวกันในละแวกบ้านไม่มีใครได้รับปริญญาเลย หลังจากนั้น เขาก็ทำงานเป็นอาจารย์สอนนักศึกษาชั้นปริญญาตรี แต่เพราะตัวเองก็จบชั้นปริญญาตรีเช่นกัน ทำให้วิชาพื้นฐานที่สอนชนกัน จึงตัดสินใจเรียนต่อเพื่อให้มีวุฒิสูงกว่าปริญญาตรี เขาจึงยื่นขอทุนเรียนปริญญาโทจากมหาวิทยาลัย

เมื่อเรียนจบปริญญาโทแล้ว ทางมหาวิทยาลัยมีโครงการจะเปิดหลักสูตรปริญญาโทอีก ดังนั้นจึงต้องหาบุคลากรที่มีวุฒิการศึกษาสูงกว่าปริญญาโท เพื่อมาสอนนักศึกษา อาจารย์กุลชาติจึงตัดสินใจรับทุนไปเรียนต่อปริญญาเอกที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ก็เจอปัญหาใหญ่ เพราะเขาไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นเลย แต่สุดท้ายอาจารย์ก็พยายามขวนขวายจนคว้าปริญญาเอกมาได้สำเร็จ

ทั้งนี้ อาจารย์ตั้งใจไว้ว่าจะพาแม่มางานรับปริญญาที่ญี่ปุ่นให้ได้ เขาจึงเจียดเงินทุนการศึกษาเก็บไว้เป็นค่าตั๋วเครื่องบิน และค่าอื่น ๆ เพื่อให้แม่เดินทางมาเห็นความสำเร็จของเขา พร้อมกับพาครอบครัวไปเที่ยวด้วยกัน

"วันรับปริญญา ตอนที่ออกมาจากหอประชุม พอเปิดประตูปุ๊บ ผมเห็นแม่ยืนหน้าประตู ความรู้สึกแรกที่อยากเข้าไปทำก็คือ อยากเข้าไปกราบเท้าแม่มาก ที่ผมมาถึงตรงนี้ได้ ถ้าไม่มีแม่วันนั้นที่คอยเคี่ยวเข็ญเรามาขนาดนี้ ผมคงมาไม่ถึงวันนี้ได้ ผมเห็นแม่ปุ๊บ ผมก้มลงกราบเลย คนญี่ปุ่นงงกันหมดว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนแม่ผมก็ร้องไห้ด้วยความซาบซึ้ง" ดร.กุลชาติ เล่าวินาทีแห่งความประทับใจ

ขณะที่คุณแม่ก็บอกว่า ในวันนั้น น้ำตาที่ไหลออกมาเป็นน้ำตาของความดีใจที่รอมานานหลายปี และเธอก็สอนลูกเสมอว่า คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้

คำสอนของคุณแม่ที่จดจำอยู่ในใจเสมอมา ทำให้ในวันนี้ ดร.กุลชาติ สามารถพิสูจน์ตัวเองให้เห็นแล้วว่า "คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้" นี่ไม่ใช่คำพูดที่เกินความจริงเลยแม้แต่น้อย เพราะจากต้นทุนชีวิตติดลบที่ต้องเกิดมากลายเป็นเด็กเร่ร่อน ขออาหารคนอื่นกินประทังหิวไปวัน ๆ แต่มาถึงวันหนึ่ง เขาตัดสินใจเลือกเดินในเส้นทางที่จะเป็นคนดี และใฝ่เรียน ทำให้ ณ วันนี้ เด็กชายเร่ร่อนคนนั้นได้กลายมาเป็น "ดร.กุลชาติ จุลเพ็ญ"

"มีคนถามผมเยอะว่าชีวิตที่ผ่านมา ผมได้แง่คิดอะไรบ้าง อะไรมันสอนผมบ้าง ผมก็พยายามคิดหาคำตอบให้กับตัวเองเหมือนกันว่าอะไรที่ผมต่างจากคนอื่น ผมมองว่า มันก็คือคำพูดที่ทุกคนเคยได้ยินกันมาเสมอว่า ความลำบากสอนให้คุณอดทน ความลำบากสอนให้คุณพยายาม สอนให้คุณมีเป้าหมายในชีวิต ถ้าไม่ลำบากก็ไม่เจอสิ่งนั้น ผมถือว่าผมโชคดีที่เกิดมาจน ผมขาดโอกาสจากความจน เราต้องสร้างโอกาสให้กับตัวเอง ทำตัวเองให้พร้อม ทำขึ้นมาเองกับมือแล้วมันจะมีความภาคภูมิใจมากกว่า" ...นี่คือเรื่องจริงที่ยิ่งกว่านิยายจากชีวิตของ ดร.กุลชาติ จุลเพ็ญ


เครดิต: BKK TV บีเคเค ทีวี

จัสติน บีเบอร์ ถูกจับฐานเมาแล้วขับ-แข่งรถ


จัสติน บีเบอร์ นักร้องเพลงป๊อปชื่อดังชาวแคนาดา ถูกจับกุมในฐานเมาแล้วขับและแข่งรถ เมื่อเช้าวันพฤหัสบดี ที่เมืองตากอากาศในรัฐฟลอริดา...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 23 ม.ค. ว่า จัสติน บีเบอร์ นักร้องเพลงป๊อปชื่อดังชาวแคนาดา วัย 19 ปี ถูกจับกุมในฐานะต้องสงสัยขับขี่ยานพาหนะภายใต้อิทธิพลของสุราหรือยาเสพติด และซิ่งรถแข่ง เมื่อเวลาประมาณ 4:09น.วันพฤหัสบดี (ตามเวลาท้องถิ่น) ที่เมืองไมอามีบีช เมืองตากอากาศในรัฐฟลอริดา หลังจากก่อนหน้านี้ เพิ่งถูกเจ้าหน้าที่นำหมายศาลตรวจค้นบ้านที่ลอสแอนเจลิส
รายงานของสำนักข่าว 'สกายนิวส์' ระบุว่า นักร้องวัยโจ๋ขับรถยี่ห้อ 'ลัมโบกินี' สีเหลืองที่เช่ามา โดยในขณะถูกจับกุมเขาขับรถด้วยความเร็ว 55-60 ไมล์ต่อชม. ซึ่งเกินกำหนดเกือบ 2 เท่า และจากการเปิดเผยของผู้บังคับการตำรวจเมืองไมอามีบีช เรย์มอนด์ มาร์ติเนซ ผลการตรวจพบว่าบีเบอร์ใช้กัญชาและดื่มเบียร์ และเขาขัดขืนการจับกุม แต่ไม่มีการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้น
ขณะที่สำนักข่าว 'ไมอามี เฮรัลด์' รายงานด้วยว่า ผู้ติดตามของบีเบอร์ใช้รถยนต์ของตัวเองปิดเส้นทางจราจรบนถนนหมายเลข 26 เพื่อสร้างเส้นทางแข่งรถ ขณะที่คนขับรถอีกคัน ซึ่งเป็นนักร้องชื่อว่า คาลิล ขับรถยนต์ยี่ห้อ 'เฟอร์รารี' สีแดง ก็ถูกจับกุมด้วยเช่นกัน และรถทั้งสองคันถูกยึดไว้เป็นหลักฐาน
ทั้งนี้ นี่นับเป็นครั้งแรกที่ จัสติน บีเบอร์ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม หลังจากก่อวีรกรรมจนตกเป็นข่าวมากมายในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดย สิบเอก บ๊อบบี เอร์นันเดซ โฆษกตำรวจเมืองไมอามีบีช จะถูกนำตัวไปยังเรือนจำเทศมณฑลไมอามี-เดด แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียดอื่นๆ เช่นบีเบอร์ได้ขอยืนประกันตัวหรือไม่
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ผู้ช่วยสำนักงานนายอำเภอเทศมณฑลลอสแอนเจลิส นำหมายค้นขอเข้าตรวจค้นแมนชันของบีเบอร์ เพื่อสืบคดีปาไข่ใส่บ้านที่อยู่ใกล้เคียง และถูกเพื่อนบ้านกล่าวหาว่าสร้างความเสียหายราว 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยในการตรวจค้นครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังจับกุมเพื่อนคนหนึ่งของนักร้องหนุ่ม หลังจากค้นพบยาเสพติดในแมนชัน
เจ้าหน้าที่ยังเคยสืบสวนบีเบอร์ หลังจากมีเพื่อนบ้านร้องเรียนว่า บีเบอร์ซิ่งรถหรูราคาแพงของเขาไปตามถนนในชุมนุม โอ๊คส์ ในเมืองคาลาบาซาส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย แต่ไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาใดๆ
ในปี 2013 บีเบอร์เคยถูกร้องเรียนให้ลบภาพ 'กราฟิติ' ที่เขาพ่นไว้บนกำแพงของโรงแรมแห่งหนึ่งในประเทศออสเตรเลีย โดยหลายเดือนก่อนหน้านั้นเข้าก็ถูกประเทศบราซิลตั้งข้อหาทำลายทรัพย์สิน จากการกระทำคล้ายกัน นอกจากนี้ ในเดือนมี.ค. ปีเดียวกัน เพื่อนบ้านของบีเบอร์แจ้งความกับตำรวจว่า ถูกบีเบอร์ถ่มน้ำลายใส่หน้า หลังจากมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง แต่ไม่มีการจับกุมเกิดขึ้น

เครติด ไทยรัฐ

Identity Thailand เปลี่ยนเวลาใหม่เริ่ม 1 ม.ค. 57

ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 57 เป็นต้นไป รายการ Identity Thailand
เปลี่ยนเวลาเป็น ทุกวันพุธ 20.30 - 21.00 น. ทางช่อง โมเดิร์นไนน์

Tribute ถึง Paul Walker

หลังจาก Paul Walker เสียชีวิต
ทีมงาน Fast & Furious ก็ทำวีดีโอ Tribute
ลำลึกถึงเขา

Paul Walker เสียชีวิตแล้ว

Paul Walker

Paul Walker มีผลงานหลักๆ ก็ Fast & Furious ภาคใหม่ที่กำลังจะออก
Fast & Furious 7 แต่หนังยังไม่ทันเสร็จ Paul Walker ก็ชิงเสียชีวิตไปซะก่อน
เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2556 Paul Walker ขับรถชนต้นไม้รถพังยับทั้งคันเสียชีวิต
รวมอายุ 40 ปี

เป็นเรื่องที่น่าเสียใจมากๆ เพราะ Paul Walker อายุก็ยังไม่มากเท่าไหร่
ยังอยู่ในวงการได้อีกเป็น 10 ปี ส่วนตัวผมไม่ชอบ Fast & Furious เท่าไหร่
แต่ก็ดูหนังเรื่องนี้เพราะ Paul Walker

T^T

ต้นไม้นิดเดียวเองไม่น่าเลย

สรุปคะแนนสามแยก TV และผู้เข้ารอบ

ผู้เข้ารอบท้าชิงสูบที่สามของสามแยกทีวี
1. เน วัดดาว 12800+
2. โจ๊ก ไอสครีม 12100+
3. อุ๋ย บุดด้าเบลส 8000+
4. ดีเจ เชา เชา 6000+

วิจารโดยอีลำป๋อง(ป๋อง กพล)
เน วัดดาว ฟอร์มยังไม่ค่อยดีแต่ถูกใจขาโจ๋ เนคิดว่าป๋องกลัวเนเหรอ
โจ๊ก ไอสครีม บ้าบิ่นดีแต่ป๋องก็ทำได้
อุ๋ย บุดด้าเบลส เปิดตัวอลังกาลดี
ดีเจ เชา เชา ไอตัวนี้แสบ

วิจารโดย Boxz TV
เน วัดดาว ไม่รับมุขไม่เป็นไร แต่ชอบถากถางคนอื่นแบบไม่ฮา
โจ๊ก ไอสครีม ยังดูตื่นๆ เวทีแต่ถ้าได้เป็นผมมองว่าอนาคตไกล
อุ๋ย บุดด้าเบลส ถ้าได้เข้ามาจะเข้ากับน้าได้ดีเพราะเขาสนิทกัน
ดีเจ เชา เชา หัวไวรับมุขไว

ส่วนตัวเชียร์โจ๊ก ไอสครีมเพราะอยากให้เปิดโอกาสให้คนใหม่ๆ บ้าง
เน วัดดาวนี่ตัดไปได้เลยไม่มีใครเอา อุ๋ยถึงจะเข้ากับน้าได้แต่เราก็ได้เห็นบรรยากาศ
แบบนี้ประจำอยู่แล้ว เชา เชา เป็นดีเจดีแล้วครับ จบข่าว

งานเทยแฟร์เฟสติวัลคาร์นิวัลแห่แหนประจำปี

เทยเที่ยวไทย presents เทยแฟร์เฟสติวัลคาร์นิวัลแห่แหนประจำปี

สถานที่แสดง ไอส์แลนด์ ฮอลล์ ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ชั้น 3
วันแสดง 30/11/2013
ประตูเปิด 12.30 น.
ราคา 100 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

รายได้ส่วนหนึ่งจากการขายบัตรมอบให้กับมูล­นิธิธรรมิกชน
เพื่อคนตาบอดในประเทศไทย
ในพระบรมราชูปถัมภ์(บ้านเด็กตาบอดผู้พิการ­ซ้ำซ้อน)

สามแยกปากหวานกลับมาแล้วในรูปแบบรายการทีวี "3 แยก TV"

สามแยกปากหวาน กลับมาแล้วในรูปแบบรายการ "3 แยก TV" เสาร์ที่ 7 ก.ย.นี้ 5 ทุ่ม ทางช่อง ONE